สืบเนื่องจากละคร #พรหมลิขิต น้ำพริกกะปิ มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยคำว่า “น้ำพริก” มีความหมายมาจากการปรุงด้วยการนำสมุนไพร พริก กระเทียม หัวหอม เครื่องเทศกลิ่นแรง มาโขก บด รวมกัน เพื่อใช้ในการจิ้ม กับผัก ต่าง ๆ ถ้าเรากิน “น้ำพริกกะปิ” หนึ่งถ้วย จะได้ประโยชน์อะไรบ้าง ตามมาดูกันค่ะ
อาหารไทยพื้นบ้าน นอกจากจะให้ความอร่อย แซ่บ แล้ว เรื่องของสารอาหาร ก็มีประโยชน์สุดยอด ตามมาดูกันค่ะ
1) พริกขี้หนูสวน
มีขนาดเล็ก และเผ็ด พริกขี้หนูสวน มีสารแคปไซซิน (Capsicin) เป็นตัวกระตุ้นความอยากอาหาร รวมถึงมีเบต้าแคโรทีน กับวิตามิน ซี ที่ช่วยบำรุงผิว และยังช่วยชะลอความชรา
2) หอมแดง
มีเซเลเนียม ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และมีโปรเตสเซียม ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายแข็งแรง มีสารเคอซิทิน ช่วยทำความสะอาดหลอดเลือด ลดอาการหลอดเลือดอุดตัน
3) กระเทียม
มีสารอัลลิซิน ช่วยลดความดันเลือด ลดการเกิดโรคหัวใจ มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีแอนตี้เซปติก ช่วยป้องกันการติดเชื้อและลดไขมันในเลือด
4) กุ้งแห้ง
มีแคลเซียมสูง ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง
5) กะปิ
เป็นอีกส่วนประกอบที่ทำให้น้ำพริกอร่อย มีวิตามิน บี 12 ช่วยสร้างเม็ดเลือดและมีแคลเซียมสูงกว่านมวัว ถึง 15 เท่า เพราะน้ำพริก 1 ถ้วย ใช้กะปิประมาณ 20–30 กรัม ให้แคลเซียม 500 มิลลิกรัม รวมทั้งโซเดียม โปรแตสเซียม วิตามิน บี 12 และไอโอดีน ช่วยสร้างเม็ดเลือด
6) มะเขือพวง
มีเส้นใยสูง ลดอาการท้องผูก
7) มะนาว
มีวิตามิน ซี สูง ช่วยขับเสมหะ ลดอาการไอ เลือดออกตามไรฟัน บำรุงผิวพรรณดี
8) ปลาทูไทย
อยู่ในเข่ง ถือเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ช่วยร่างกายเจริญเติบโตรวมทั้งมีโอเมก้า 3 ที่ช่วยบำรุงสมอง เพิ่มความทรงจำ
9) ผักสด ผักต้ม
เพิ่มกากใยให้กับลำไส้ ลดอาการท้องผูก แถมยังได้วิตามิน และเกลือแร่จากผัก
ยังมีสมุนไพรอีกมากมายที่นิยมนำมาเป็นเครื่องเคียงทานกับน้ำพริกกะปิ ไม่ว่าจะเป็น สายบัว แตงกวา ถั่วพู ชะอม ขิง ที่มีประโยชน์ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงเพิ่มภูมิคุ้มกัน
(credit : www.i-kinn.com)